กลุ่ม E
ฮอลแลนด์-เดนมาร์ก-ญี่ปุ่น-แคเมอรูน
ฟลายอิ้งดัตช์แมน สร้างสถิติชนะรวดในรอบคัดเลือกมาแอฟริกาด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม
ขุนพลหลักอย่าง โรบิน ฟาน เพอร์ซีย์, เวสลีย์ สไนเดอร์, อาร์เยน ร็อบเบน ฟิตพร้อมลงสนาม
ทำให้เกมส์รุกจัดจ้านเหลือกำลัง
เดนมาร์กต้องเจองานหนักเพื่อทัดเทียมกับตำนานของคนรุ่นก่อน ขณะที่ตัวแทนจากแอฟริกันอย่าง แคเมอรูน
เจ้าของสถิติปรากฏตัวในworld cup มากที่สุดในบรรดาทีมที่มาจากทวีปเดียวกัน การนำทีมของ ซามูเอล เอโต้
ที่เพิ่งคว้าทริปเปิ้ลแชมป์กับอินเตอร์ มิลาน
ทั้งหมดนั้นทำให้ความของญี่ปุ่น กลายเป็นปริศนาทันที อีกทั้งทีมของ ทาเคชิ โอกาดะ ก็ยังไม้เคยประสบผล
สำเร็จในระดับอินเตอร์มาก่อน
กลุ่ม F
อิตาลี-ปารากวัย-นิวซีแลนด์-สโลวาเกีย
แชมป์เก่า อัซซูรี่ คือทีมยุโรปหนึ่งเดียวที่ครองแชมป์สี่สมัย ตรงข้ามกับ สโลวาเกีย ที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายมาได้เป็นหนแรก คือความแตกต่างของกลุมนี้ที่ชัดเจนที่สุด
โดยมี ปารากวัย คู่แข่งที่แกร่งและรับมือยาก แถมยังมีประสบการณ์เหลือเฟือจากการเข้ารอบสุดท้าย 4 สมัย
ติดต่อกัน
นิวซีแลนด์ ที่คัมแบ็กสู่เวที่โลกหนแรกนับแต่ปี 1982 คงเป็นได้แค่ตัวประกอบ
กลุ่ม G
บราซิล-เกาหลีเหนือ-ไอวอรี่ โคสต์-โปรตุเกส
บราซิล-โปรตุเกส กลายเป็นไฮไลท์ประจำกลุ่ม โดยเต็งหนึ่ง แซมบ้า แชมป์ 5 สมัย มาแอฟริกาใต้ในสภาพพร้อมรบเต็มที่
ขณะที่โปรตุเกส ฟอร์มย่ำแย่ในรอบคัดเลือก ดาวดังอย่าง คริสเตียโน โรนัลโด้
ยังไม่อาจงัดฟอร์มออกมาได้ และไอวอรี่โคสต์ กับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ซึ่งได้ สเวน โกรัน อีริคสัน มาคุมทีมหลังจากผิดหวังในแอฟริกันเนชั่นคัพ แท็กติกที่เหนียวแน่นผสมความแกร่งของลูกทีมที่มีเกินร้อย
ยักษ์ชนยักษ์ในกลุ่มนี้ทำให้ เกาหลีเหนือที่ผ่านเข้ารอบมาได้เป็นหนแรกนับแต่ปี 1966 คงหาทางสร้างตำนานได้ยาก
กลุ่ม H
สเปน-สวิตเซอร์แลนด์-ฮอนดูรัส-ชิลี
สเปน ดีกรีแชมป์ยุโรปเมื่อสองปีก่อน คือหนึ่งในตัวเต็งแชมป์ไปโดยปริยาย ทั้งสไตล์การเล่นที่ลงตัวและจังหวะจบสกอร์ที่เฉียบขาด ขณะเดียวกับ สวิตเซอร์แลนด์ กลายเป็นที่มที่แพ้ทางสเปนอย่างชัดเจน ส่วนผู้ท้าชิงอันดับสองนั้นคือ ชิลี และฮอนดูรัส ที่มาบอลโลกหนแรกนับแต่ปี 1982 ต้องเป็นม้านอกสายตาไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น