วันพุธที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2553

สรุปผลบอลโลกวันที่ 22 มิ.ย. 53

"ฟ้า-ขาว" อาร์เจนติน่า เฉือนเอาชนะ กรีซ 1-0 เก็บ 9 คะแนนเต็ม ซิวแชมป์กลุ่ม บี ผ่านเข้าสู่รอบ 2 ศึกฟุตบอลโลก 2010 เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยจะเข้าไปเจอกับ เม็กซิโก ในวันที่ 27 มิ.ย. นี้


ฟุตบอลโลก 2010 รอบแรก นัดสุดท้าย กลุ่ม บี
กรีซ 0 - 2 อาร์เจนติน่า


สนาม: ปีเตอร์ โมคาบา สเตเดี้ยม (โพล็อควาเน่, แอฟริกาใต้)

คู่นี้เป็นการรีแมตซ์อีกครั้ง หลังจาก อาร์เจนติน่า เคยเอาชนะ กรีซ มาได้ขาดลอย 4-0 ในฟุตบอลโลก ปี 1994 ที่สหรัฐอเมริกา โดยครั้งนั้น ดีเอโก้ มาราโดน่า ยังเป็นผู้เล่นและเป็นคนทำประตูที่สี่ในเกมดังกล่าว ซึ่งเป็นประตูสุดท้ายในนามทีมชาติของเจ้าตัวด้วย
เกมนี้ กรีซ ต้องพยายามเก็บชัยให้ได้ หากอยากเข้าสู่รอบสองต่อไป พร้อมต้องลุ้นให้เกาหลีใต้ ทำได้แค่เสมอด้วย โดยขุนพลจากแดนเทพนิยาย ได้
วาน เจลิส โมราส กองหลังหายเจ็บกลับมาช่วยแนวรับที่วางไว้แน่นถึง 5 ราย ส่วนเกมรุกวาง จอร์กอส ซามาราส ยืนเป็นตัวเป้าเพียงคนเดียว
ส่วน "ฟ้า-ขาว" อาร์เจนติน่า เก็บ 6 แต้มเต็มจากสองนัด หากเกมนี้เก็บผลเสมอจะผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายทันทีในฐานะแชมป์กลุ่ม บี. แต่ต้องขาด วอลเตอร์ ซามูเอล เซนเตอร์ฮาล์ฟตัวเก่งที่เจ็บกล้ามเนื้อต้นขา รวมไปถึง โฮนาส กูเตียร์เรซ วิงแบ็คกราบขวาที่ติดโทษแบน 1 นัด รวมทั้งพัก กาเบรียล ไฮน์เซ่ กับ ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ กัปตันทีมที่มีใบเหลืองพัวพันอยู่เอาไว้ด้วย
แนวรุกพัก กอนซาโล่ อิกวาอีน ดาวซัลโวสูงสุดของเวิลด์ คัพ เวลานี้ 3 ประตู กับ คาร์ลอส เตเวซ แล้วให้โอกาสกับ ดีเอโก้ มิลิโต้ ศูนย์หน้าจากสโมสรอินเตอร์ มิลาน ลงมาล่าตาข่ายกับ เซร์คิโอ อเกวโร่ "กุน" และ ลีโอเนล เมสซี่ ที่รับบทบาทกัปตันทีมในเกมนี้ทำให้เจ้าตัวเป็นกัปตันที่อายุน้อยที่สุดใน ประวัติศาสตร์ของทีมฟ้า-ขาว ด้วย
ออกสตาร์ทครึ่งแรกได้ 10 นาที อาร์เจนติน่า ขึงเกมรุกอยู่ตลอด ลีโอเนล เมสซี่ ทำชิ่งหนึ่ง-สองกับ เซร์คิโอ อเกวโร่ "กุน" แต่จังหวะสุดท้ายโดน โซคราติส ปาปาสตาโธปูลอส มาสกัดทิ้งไปได้ทัน
หลังจากนั้น 8 นาที ฟ้า-ขาว ได้ลุ้นครั้งแรกจากจังหวะที่ ฮวน เซบาสเตียน เวรอน แทงบอลยาวจากกลางสนามให้ เซร์คิโอ อเกวโร่ วิ่งโฉบไปเอาบอลก่อนกระชากเข้าในเขตโทษด้านซ้ายแล้วสับไกด้วยซ้ายทันทีถูก อเล็กซานดรอส ซอร์วาส นายทวารกรีซพุ่งปัดเอาไว้ได้
ถัดมานาทีเดียว อาร์เจนฯ ได้ลุ้นต่อเนื่องทีเดียว เมื่อ เวรอน ตะบันเต็มหลังเท้าขวาจากระยะ 20 หลากลางประตูบอลจะมุดเสียบใต้คานอยู่แล้ว แต่ ซอร์วาส ยังพุ่งปัดเอาไว้ได้ด้วยปลายมือ
เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 29 คอสตาส คัตซูรานิส กองกลางของกรีซ มาโดนใบเหลืองแรกของเกมหลังไปทำฟาวล์ใส่ เซร์คิโอ อเกวโร่ "กุน"
4 นาทีให้หลัง เป็นโอกาสของอาร์เจนติน่า เมื่อ ดีเอโก้ มิลิโต้ ได้บอลทางขวาก่อนไหลยัดเข้ากลาง ซอร์วาส พยายามปัดแต่ไม่พ้น บอลมาเข้าทาง เซร์คิโอ อเกวโร่ 'กุน' ได้ซัดด้วยขวาเต็มข้อ แต่ยังมี ลูคัส วินตร้า ตามาบล็อคไว้ได้อย่างหวุดหวิด
ช่วงทดเจ็บครึ่งแรก ฟ้า-ขาว ได้โอกาสหลายครั้งเริ่มจาก เคลเมนเต้ โรดริเกซ เปิดบอลมาให้ มักซี่ โรดริเกซ แต่งบอลหนึ่งจังหวะก่อนกดด้วยซ้าย แต่ ซอร์วาส ยังปัดออกมาได้ จังหวะต่อมา ลิโอเนล เมสซี่ ได้โอกาสปั่นด้วยซ้ายบอลกำลังจะมุดใต้คานอยู่แล้ว แต่ ซอร์วาส ยังปัดออกหลังไปได้อีก หมดครึ่งแรกยังเสมอกันอยู่ 0-0
มาเล่นกันต่อในครึ่งหลัง กรีซ เปลี่ยนเอา นิกอส สปิโรปูลอส ลงมาเล่นแทน จอร์กอส คารากูนิส ที่มีอาการบาดเจ็บพร้อมต้องให้ คอสตาส คัตซูรานิส เป็นกัปตันทีมแทน
ขุนพลจากแดนเทพนิยาย เริ่มต้นได้ดี มีโอกาสได้ลุ้นก่อนจากจังหวะที่ จอร์กอส ซามราส ได้บอลก่อนยิงหลุดเสาไกลไปในนาทีที่ 48
จากนั้นนาทีที่ 54 กรีซ จำเป็นต้องเปลี่ยนเอา คอสตาส คัตซูรานิส ที่มีอาการบาดเจ็บออกแล้วส่ง โซติริส นินิส กองกลางพรสวรรค์สูงลงมาเล่นแทน แล้วให้ โซติริส คีร์เกียคอส เป็นกัปตันทีมแทน
นาทีต่อมา กรีซ เปลี่ยนเอา วาซิลิส โตโรซิดิส ที่ไม่สมบูรณ์ออกออกแล้วส่ง คริสตอส พัตซัตโซกลู ลงมาเล่นแทน และเป็นการเปลี่ยนตัวผู้เล่นครบสามรายแล้ว
อาร์เจนฯ ได้ลุ้นอีกครั้ง เคลเมนเต้ โรดริเกซ ลากขึ้นมาทางซ้ายไม่มีใครเข้ามาประกบเลยตัดสินใจยิงด้วยขวาทันทีบอลหลุดเสา แรกไปนิดเดียวเท่านั้นในนาทีที่ 58
เกมของฟ้า-ขาว ยังไม่ดีทำให้ มาราโดน่า เปลี่ยนเอา มักซี่ โรดริเกซ ที่บทบาทน้อยออกแล้วส่ง อังเคล ดิ มาเรีย ลงมากระชากลากเลื้อยแทนในนาทีที่ 63
สี่นาทีให้หลัง อาร์เจนฯ น่าได้จุดโทษเมื่อ โซติริส คีร์เกียคอส ไปดึงเสื้อของ ดีเอโก้ มิลิโต้ ล้มลง แต่ผู้ตัดสินเฉย
ฟ้า-ขาว บดหนักจริงๆ ได้ฟรีคิกระยะไกลร่วม 35 หลา เมสซี่ ปั่นด้วยซ้ายบอลไซด์เข้าหากรอบเล่นเอา อเล็กซานดรอส ซอร์วาส นายทวารกรีซ ต้องลอยตัวปัดทิ้งไป จากลูกเตะมุม เวรอน เปิดมาเสาไกลให้กับ มาริโอ โบลัตติ วอลเลย์ด้วยขวาบอลแรงมากแต่ยังไปตรงตัว ซอร์วาส รับไว้ได้อย่างไม่น่าเชื่อในนาทีที่ 69
กระเถิบมาถึงนาทีที่ 76 อาร์เจนฯ กดดันหนักแล้ว วอร์วาส นายทวารกรีซชกบอลจากลูกเตะมุมออกมาเข้าทางของ โมราส สกัดไม่ดีเกือบจะเด้งเข้าประตูตัวเองไป
นาทีเดียวกันนั้น อาร์เจนติน่า เปลี่ยนเอา ฮาเวียร์ ปาสตอเร่ กองกลางดาวรุ่งเทคนิคสูงลงมาเล่นแทน เซร์คิโอ อเกวโร่ "กุน" โดยในนาทีเดียวกันนี้ มาริโอ โบลัตติ ไปโดนใบเหลืองด้วยจากการทำฟาวล์คู่แข่ง
อารเจนติน่า เดินหน้าบุกแลกมาได้ประตูขึ้นนำจนได้ในนาทีที่ 77 จากจังหวะที่ อังเคล ดิ มาเรีย เปิดมุมจากทางซ้ายเข้ามาที่เสาสองให้ มาร์ติน เดมิเคลิส ดันขึ้นมาเทคตคัวโหม่งบอลไปชนตัวของ ดีเอโก้ มิลิโต้ เด้งมาเข้าทางของ เดมิเคลิส วอลเลย์ด้วยซ้ายเปรี้ยงเดียวเสียบตาข่ายแทบขาดให้ฟ้า-ขาว นำก่อน 1-0
จากนั้นนาที 80 ฟ้า-ขาว เปลี่ยนตัวเป็นคนสุดท้ายให้ มาร์ติน ปาแลรืโม่ หัวหอกลายครามวัย 36 ปี ลงมาเล่นแทน ดีเอโก้ มิลิโต้ ที่เล่นไม่ออกเลยในเกมนี้
ช่วงนาทีที่ 89 ฟ้า-ขาว มาได้ประตูย้ำชัยชนะ จากจังหวะที่ เมสซี่ ซัดจากหน้ากรอบเขตโทษ อเล็กซานดรอส ซอร์วาส นายทวาร กรีซ ปัดมาเข้าทาง มาร์ติน ปาแลร์โม่ ซ้ำเข้าไป จบเกม อาร์เจนติน่า เอาชนะ กรีซ ไป 2-0 เก็บชัยเป็นนัดที่สามติดต่อกัน เป็นทีมแรกในทัวร์นาเม็นท์นี้ คว้าแชมป์กลุ่ม บี. เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายไปเจอ เม็กซิโก รองแชมป์กลุ่ม เอ. ต่อไป ที่สนามซอคเกอร์ ซิตี้, โจฮันเนสเบิร์ก วันอาทิตย์ที่ 27 มิถุนายน นี้
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
กรีซ: อเล็กซานดรอส ซอร์วาส - ลูคัส วินตร้า, อัฟราม ปาปาโดปูลอส, โซติริส คีร์เกียคอส, วานเจลิส โมราส, วาซิลิส โตโรซิดิส - จอร์กอส คารากูนิส (กัปตันทีม), โซคราติส ปาปาสตาโธปูลอส, คอสตาส คัตซูรานิส, อเล็กซานดรอส ซิโอลิส - จอร์กอส ซามาราส
สำรอง: คอนสแตนตินอส ชัลคิอัส (ผู้รักษาประตู) - มิชาลิส ซิฟาคิส (ผู้รักษาประตู) - คริสตอส พัตซัตโซกลู, นิกอส สปิโรปูลอส, สเตลิออส มาเลซาส, จอรืกอส ไซตาริดิส, โซติริส นินิส, อันเจลอส ชาริสเตอัส, ปานเตลิส คาปาเตนอส, เธโอฟานิส เกคาส, ดมิทริส ซัลปินจิดิส
อาร์เจนติน่า: เซร์คิโอ โรเมโร่ - นิโคลัส โอตาเมนดี้, มาร์ติน เดมิเคลิส, นิโคลัส บูร์ดิสโซ่, กเลเมนเต้ โรดริเกซ - ฮวน เซบาสเตียน เวรอน, มาริโอ โบลัตติ, มักซี่ โรดริเกซ - ลิโอเนล เมสซี่ (กัปตันทีม), ดีเอโก้ มิลิโต้, เซร์คิโอ อเกวโร่ 'กุน'
สำรอง: มาเรียโน่ อันดูฮาร์ (ผู้รักษาประตู) - ดีเอโก้ โปโซ่ (ผู้รักษาประตู) - กาเบรียล ไฮน์เซ่, วอลเตอร์ ซามูเอล, อาเรียล การ์เซ่, ฮาเวียร์ มาสเคราโน่, ฮาเวียร์ ปาสตอเร่, อังเคล ดิ มาเรีย, มาร์ติน ปาแลรืโม่, กอนซาโล่ อิกวาอีน, คาร์ลอส เตเวซ
ผู้ตัดสิน: ราฟชาน เออร์มาตอฟ (อุซเบกิสถาน)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น