วันพุธที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2553

จับตาทีมเต็งบอลโลก2010


ตอนนี้เรียกได้ว่ามองไปทางไหน ก็จะเห็นแต่กระแส "ฟุตบอลโลก ฟีเวอร์" สำหรับการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย 2010 ที่ประเทศแอฟริกาใต้
ทุกครั้งที่บอลโลกมาถึง คำถามที่ทุกคนจะถามถึงนั่นก็คือ "ใครจะเป็นแชมป์โลก"
ทีมขวัญใจมหาชนคนไทยอย่าง "สิงโตคำราม" อังกฤษ ที่หลายคนมองว่า ปีนี้น่าจะเป็นโอกาสที่ดีไม่น้อยที่จะคว้าแชมป์เป็นสมัยที่ 2 มาครอง เนื่องจากนักเตะหลายคน ก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะแถวหน้าของโลก แถมได้โค้ชฝีมือพระกาฬอย่าง ฟาบิโอ คาเปลโล่ มาคุมทีม แต่ปัญหาของทีมน่าจะอยู่ที่ตำแหน่งผู้รักษาประตู หากจะหวังถึงแชมป์เกมรับคงต้องทำงานหนักเพิ่มเป็น 2 เท่าทีเดียว
สเปน ทีมที่ได้รับคาดหมายว่าเป็นทีมเต็ง 1 ด้วยแนวรุกที่จัดจ้าน บวกกับแผงกองกลางที่แข็งแกร่งทะลุทะลวง จ่ายบอลเฉียบขาด แต่ปัญหาของทีมนั้นน่าจะอยู่ที่กองหลัง เนื่องจากคู่เซนเตอร์เล่นลูกกลางอากาศไม่ดีนัก จึงน่าจะเป็นจุดอ่อนของทีม แต่ทีมร่วมกลุ่มไม่ค่อยแข็งแกร่งนัก น่าจะผ่านเข้าสู่รอบต่อไปได้ไม่ยาก
อิตาลี แชมป์เก่าเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ที่หวังยกพลมาเพื่อป้องกันแชมป์ให้ได้ แต่การขาดหายไปของ อเลสซานโดร เนสต้า ปราการหลังจอมแกร่ง กับ ฟรานเชสโก้ ต๊อตติ กองหน้าจอมเทคนิค ที่ถอนตัวจากทีมชาตินั้น ทำให้หลายคนมองข้ามอิตาลีว่าอาจไปไม่ถึงฝั่งฝัน แต่ด้วยจุดแข็งของโค้ชอย่าง มาร์เชลโล่ ลิปปี้ มันสองของยอดโค้ชผู้นี้ น่าจะพาทีม "อัซซูรี่" ผงาดเข้าสู่รอบลึกๆได้
ฝรั่งเศส รองแชมป์เก่า ที่ผ่านเข้ารอบมาด้วยการ "โกง" ในสายตาแฟนบอลมากมาย แถมยังไม่มีใครเชื่อฝีมือการทำงานของ เรย์มงด์ โดเมเน็ค อีกต่างหาก แถมเพื่อนร่วมกลุ่มแต่ละทีมนั้นก็ใช่ย่อย แม้ขุนพลของทีมจะแข็งแกร่ง มีทั้ง ฟร้องค์ ริเบรี่, ฟลอร็องต์ มาลูด้า, นิโกล่าส์ อเนลก้า รวมไปถึง เธียร์รี่ อองรี นำทัพ แต่หากฟอร์มการเล่นไม่กระเตื้อง โอกาสตกรอบแรกนั้นก็มีสูงทีเดียว
บราซิล ที่ปีนี้มาแบบเงียบเหลือเกิน ไม่หวือหวาเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา แต่ยังคงประมาทไม่ได้ แม้ว่าจะไม่มี โรนัลดินโญ่ กับ อาเดรียโน่ (ที่หลายคนดูว่าหมดสภาพไปแล้ว) แต่การมาเงียบๆแบบนี้แหละน่ากลัวนัก ขึ้นชื่อว่าขุนพล "แซมบ้า" แล้ว การันตีได้เลย พวกเค้าจะฝ่าฟันเข้าไปถึงรอบลึกๆอย่างแน่นอน
อาร์เจนติน่า ของ ดีเอโก้ มาราโดน่า ที่มี นักเตะหมายเลข 1 ของโลกอย่าง ลีโอเนล เมสซี่ ที่ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายมาได้แบบทุลักทุเล ยิ่งการไม่เลือกนักเตะอย่าง เอสเตบัน กัมบิอัสโซ่ กับ ฮาเวียร์ ซาเน็ตติ สองนักเตพแกนหลักที่เพิ่งจะนำอินเตอร์ มิลาน ผงาดคว้า 3 แชมป์เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา มาติดทีม ปัญหาของทีมนั้นอาจไม่ได้อยู่ที่ตัวผู้เล่น แต่มันอยู่ "เสือเตี้ย" มากกว่า ที่หลายคนยังตั้งข้อสงสัยในความสามารถของเขา รอบแรกอาจจะผ่านได้ไม่ยาก แต่หากจะหวังถึงแชมป์นั้น ต้องบอกว่าเหนื่อยทีเดียว
เยอรมัน ที่ต้องขาดกัปตันทีมจอมแกร่งอย่าง มิชาเอล บัลลัค จากอาการบาดเจ็บ เรียกได้ว่าส่งผลกระทบต่อทีมไม่น้อยทีเดียว แต่ขุนพล "อินทรีเหล็ก" ชุดนี้ เต็มไปด้วยนักเตะอายุน้อยที่มีความกระหายที่จะประสบความสำเร็จ บวกกับมันสมองของโค้ชอย่าง โยอาคิม เลิฟ เชื่อว่าอย่างน้อย ทีมน่าจะทะลุภึงรอบลึกๆได้อย่างแน่นอน
ฮอลแลนด์ ที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายเป็นทีมแรก จากการชนะรวด 8 นัดในรอบแบ่งกลุ่ม พร้อมกับขุนพลแนวรุกเต็มพิกัด ทั้ง อาร์เยน ร็อบเบน, เวสลี่ย์ สไนเดอร์, ราฟาเอล ฟาน เดอ ฟาร์ท รวมทั้ง โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ กับ เดิร์ค เค้าท์ ถือเป็นทีมที่จะประมาทไม่ได้เลยทีเดียว แม้ว่าหลายคนจะมองข้าม "อัศวินสีส้ม" ไปแล้วก็ตาม
โปรตุเกส ของ คาร์ลอส เคยรอซ ที่ใครๆก็ต้องนึกถึง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ แต่การเล่นคนเดียวนั้นไม่สามารถเสกแชมป์ให้ทีมได้ (ยกเว้น มาราโดน่า) แถมโดนจับไปอยู่ใน กรุ๊ป ออฟ เดธ เรียกได้ว่างงานช้างเลยทีเดียว จึงเป็นบทพิสูจน์อย่างแท้จริงว่าขุนพล "ฝอยทอง" จะสามารถผ่านเข้าสู่รอบต่อไปได้หรือไม่ แต่เชื่อว่าอย่างน้อยที่สุด โปรตุเกส น่าจะผ่านเข้าสู่รอบได้ แม้ว่าจะยากลำบาก
ทัศนะแต่ละคนก็แตกต่างกันไป แล้วแต่ว่าใครเป็นแฟนทีมไหน ก็คงต้องส่งแรงใจไปเชียร์กันอย่างเต็มที่
ช่วงนี้ฝนตกรถติด แฟนๆอย่าลืมรักษาสุขภาพกันด้วยนะครับ เกิดไม่สบายไปอดดูบอลคงน่าเสียดาย 4 ปีมีแค่ครั้งเดียวนะครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น