 เส้นทางการเข้ารอบสองในศึกฟุตบอลโลก 2010 ของทีมชาติชิลี ทำท่าว่าจะสดใสแล้ว เมื่อเกมล่าสุดพวกเขาเปิดหัวได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการเชือดเอาชนะ ฮอนดูรัส คู่แข่งร่วมกลุ่ม เอช 1-0 จากการสังหารของ ฌอน โบเซอชูร์ ในช่วงนาทีที่ 34 เก็บสามแต้มสำคัญได้สำเร็จเมื่อคืนที่ผ่านมา
ฟุตบอลโลก 2010
รอบแรก กลุ่ม เอช
วันพุธที่ 16 มิถุนายน 2553
ฮอนดูรัส 0 - 1 ชิลี
สนาม : เอ็มบอมเบล่า สเตเดี้ยม เกมแรกของชิลี กับฮอนดูรัส ในกลุ่ม เอช เตะกันที่สนามเอ็มบอมเบล่า สเตเดี้ยม ในเมืองเนลสปริท นัดนี้ชื่อชั้นของชิลีดีกว่าฮอนดูรัสเห็นๆ โดยเฉพาะฟอร์มอุ่นเครื่องล่าสุด ชิลี เชือดไอร์แลนด์เหนือ 1-0 ขณะที่ฮอนดูรัส แพ้โรมาเนีย 0-3
นัดนี้ชิลีของกุนซือ มาร์เซโล่ บิเอลซ่า ชาวอาร์เจนไตน์ ส่งนักเตะตัวเอกลงสนามครบครัน นำทัพโดย อเล็กซิส ซานเชซ แนวรุกตัวเก่งที่เล่นในอิตาลีกับอูดิเนเซ่
ส่วนฮอนดูรัส เกมนี้มีวิลสัน ปาลาซิออส มิดฟิลด์ฝีเท้าฉกาจที่เล่นให้กับสเปอร์ส ในพรีเมียร์ลีกอังกฤษ เป็นกลจักรสำคัญนำเพื่อนร่วมทีมบู๊กับทีมดังจากอเมริกาใต้
เปิดฉากครึ่งแรก ได้ไม่ถึงสองนาที ชิลีได้ฟรีคิกกลางประตู ระยะ 40 หลา มาติอัส เฟร์นานเดซ กองกลางชั้นดีของชิลี ซัดเต็มๆ ข้อ บอลพุ่งฉิวมุดเข้าหาประตู แต่เหินไปนิด บอลเลยคานตกหลังประตู
นาที 4 การ์ลอส การ์โมน่า กองกลางชื่อดังของชิลี เสียบข้อเท้า เอ็ดการ์ด อัลวาเรซ จนหน้าคะมำ โดนใบเหลืองเป็นคนแรก
ถัดมาไม่ถึงนาที อเล็กซิส ซานเซส กองหน้าตัวเก่งของชิลี กะพลิ้วหนี อมาโด้ เกวาร่า ตรงมุมธงด้านขวา แต่โดนสกัดแรง กรรมการเป่าเป็นฟรีคิก ซานเซสเปิดเข้ามาหน้าประตู แต่บอลขลุกขลิกไปมา ก่อนทะลักเข้าทางปืน อาร์ตูโร่ วิดาล ได้ยิง แต่แป็กบอลกลิ้งหลุนๆ เข้ามือ โนเอล บายาดาเรส
จากนั้นเกมของชิลีเปิดเกมรุกใส่ฮอนดูรัสได้อย่างต่อเนื่อง ทำเอากองหลังทีมจากโซนคอนคาเคฟต้องทำงานหนัก
นาที 9 อาร์ตูโร่ วิดาล กองกลางตัวเก่งชิลี ครองบอลไปมาหน้าระยะ 40 หลา เห็นไม่มีใครประกบ จัดการง้างเท้าขวาซัดเปรี้ยง ส่งบอลแรงจี้เข้าหาประตู นายทวารของฮอนดูรัส บายาดาเรส ยืนปักหลักรับ แต่ด้วยความแรงของลูกถึงกับรับกระฉอก แต่ยังผวาตามเข้าไปรับได้
เกมผ่านมาถึงนาที 15 ชิลีเจาะบอลตามช่องได้อย่างน่ากลัว แต่ในนาทีที่ 17 ชิลีต้องเสียใบเหลืองเป็นใบที่สอง เมื่อ มาติอัส เฟร์นานเดซ กองกลางชิลีเล่นแรง เข้าไปงัด เกวาร่าจนหัวทิ่มดิน กรรมการรีบชักใบเหลืองลงโทษ
ชิลีเดินเกมทางกราบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ฉีกแนวรับฮอนดูรัสจนหัวปั่น นาทีที่ 21 อเล็กซิส ซานเชซ โยกไปเล่นกราบขวา คลึงบอลไปมา หาจังหวะฉีกหนีฮอนดูรัสที่เข้ามาพัวพัน พอได้จังหวะรีบตักบอลโด่งเข้ากลางให้ ฮอร์เค่ วัลดิเวีย ที่ยืนตรงหน้ากรอบเขตโทษ ง้างยิงเต็มข้อ แต่บอลเหินข้ามคาน
นาที 24 ฮอนดูรัสเกือบเสียประตู เมื่อ อาร์ตูโร่ วิดาล กระชากบอลมาถึงเส้นหลัง ก่อนตัดสินใจยิงมุมแคบแต่บอลไปโดนเท้าอีซากีร์เร่ หลุดออกหลัง นาทีถัดมา ชิลีได้โอกาสเสียวอีกครั้ง จากจังหวะเตะมุมฝั่งขวา บอลย้อยมาหน้าประตูเข้าหัวอาร์ตูโร่ วิดาล ทะยานโขกเต็มหน้าผาก แต่กดไม่พอบอลข้ามคานอย่างน่าเสียดาย
จากนั้นชิลีหันมาตั้งเกมแดนกลาง ก่อนถ่ายบอลออกซ้าย-ขวา ให้ปีกหาจังหวะโยนเข้ากลาง แต่ยังควานหาประตูแรกไม่ได้
นาที 32 วิลสัน ปาลาซิออส ตัวเก่งฮอนดูรัส เข้าไปชาร์จผู้เล่นชิลี 3 ครั้งติดๆ กรรมการรอให้บอลตาย แล้วรีบชักใบเหลือง ทำเอาปาลาซิออสถึงกับทำหน้างง ต้องโร่เข้าไปถามกรรมการ
นาทีถัดมาชิลีเล่นเร็วจนได้ผล ถ่ายบอลทางปีกขวา เมาริซิโอ อิสล่า แทงบอลเร็วมาหน้าประตู ให้โบเซอชูร์ ที่ถลาเข้ามากะจิ้มหัวเกือกระยะแค่ 3 หลาให้บอลเปลี่ยนทิศ แต่พลาดบอลเลยไปโดนตัวเซร์คิโอ เมนโดซ่า ที่ตามเข้ามาสไลด์สกัดด้านหลัง แต่กลับซวยสกัดโดนบอลปลิ้นไปโดนต้นขาซ้ายโบเซอชูร์ แฉลบเข้าประตู เป็นประตูให้ชิลี นำ 1-0 ทำเอากองเชียร์ชิลีเฮกันลั่น
หลังจากเสียประตูแรก ฮอนดูรัสเริ่มเป๋ และเกือบเสียประตูที่สอง ในนาทีที่ 35 เมื่อชิลีเล่นเร็ว วัลดิเวีย ตอกส้นเร็วในกรอบเขตโทษ ให้ซานเชซ กับวิดาลที่วิ่งตีคู่กันเข้ามาสังหาร แต่โดนเกวาร่า แตะบอลออกหลังอย่างหวุดหวิด นาที 37 ฮอนดูรัสอยู่นิ่งไม่ได้ ฮึดต่อบอลเร็ว จู่โจมชิลีบ้างแต่ไม่ได้ผล กลับโดนชิลี เก็บบอลได้หมด แล้วพาบอลเข้าไปสร้างปัญหา
นาทีที่ 43 ชิลีเกือบได้อีกลูก ในจังหวะที่ โรดริโก้ มีย่าร์ ชิ่งให้ซานเชซในกรอบเขตโทษแล้วตวัดยิงเร็ว แต่โดนแผงหลังฮอนดูรัส ทะลักมาถึงวัลดิเวีย แต่ยิงไม่ได้บอลกลิ้งเข้ามือบายาดาเรส นายทวารฮอนดูรัส
นาทีสุดท้ายครึ่งแรกฮอนดูรัสได้เสียว นูนเญซ ได้ยิงฟรีคิกระยะ 30 หลากลางประตูบอลย้อยเกือบมุดเสาแต่บราโว นายด่านชิลีทุบบอลออกไปจบครึ่งแรกชิลีนำ 1-0
ครึ่งหลัง นักเตะฮอนดูรัสลงสนามด้วยสีหน้าเครียด หลังจากเกมในครึ่งแรกตกเป็นรองทุกกระบวนท่า หันมาใช้ทีมเวิร์กพาบอลเข้าทำ แต่ยังเจาะแนวรับของชิลีที่แพ็กหลังได้อย่างเหนียวหนึบไม่ได้ กลับโดนชิลีใช้ชั้นเชิงของนักเตะ บวกกับการต่อบอลที่แม่นยำ เข้ามาป่วนแผงหลังฮอนดูรัส ไล่สกัดจนลิ้นห้อย
เข้าสู่นาที 50 ชิลีเปลี่ยนตัว เอา กอนซาโล่ ฮาร่า กองกลาง ลงไปเล่นครองเกมแทน โรดริโก้ มีย่าร์
นาทีที่ 54 ซานเชซโชว์พราว เลี้ยงบอลล็อกหลบไปมา จนเอสปิโนซ่ารำคาญ เกี่ยวข้อเท้ากองหน้าตัวเก่งของชิลีล้มหน้าคะมำ กรรมการวิ่งเข้ามาชักใบเหลืองให้เอสปิโนซ่าทันที
มาถึงนาที 57 ฮอนดูรัสทนไม่ไหวส่ง จอร์จี้ เวลคัม กองหน้าอีกตัวลงไปล่าตาข่ายแทน ปาวอน ดาวยิงวัย 36 ปี ที่ปืนดันมาฝืดในนัดนี้
ชิลีกระชับเข้า พื้นที่ฮอนดูรัสได้น่ากลัว จวนเจียนจะได้ประตูที่สองหลายครั้ง นาที 61 วัลดิเวียแทงบอลให้ซานเชซกระชากบอลเข้าไปในเขตโทษ ก่อนแตะบอลออกขวา หาจังหวะซัด แต่ไม่ตรงกรอบ บอลถากเสาออกไปนิดเดียว นาที 65 เฟร์นานเดซ ได้เตะฟรีคิกตรงกราบขวาสนาม บอลพุ่งแรงข้ามฟากมาถึงเสาสอง วิดาล รออยู่เดี่ยวๆ ป้ายบอลเข้ามาหน้าประตูให้ วัลโด้ ปอนเช่ พุ่งโหม่งหน้าประตูระยะแค่ 2 หลา แต่บายาดาเรส นายประตูฮอนดูรัส ซูเปอร์เซฟ ป้องกันลูกอันตรายไว้ได้ จากนั้นชิลีเปลี่ยนตัวทันที การ์ลอส การ์โมน่า ลงไปเล่นแทนมีย่าร์
ฮอนดูรัส ได้โอกาสบ้าง หลังจากโดนบี้จนโงหัวไม่ขึ้น นาที 70 เอสปิโนซ่า เตะมุมฝั่งขวา บอลพุ่งเข้ามาหน้าประตูกะให้ ออสมัน ชาเวซ ที่ยืนรอจุดนัดพบเข้าชาร์จ แต่ปอนเช่กองหลังชิลีรู้ทัน โผเข้ามาสกัด แต่ดันเตะแฉลบ บอลกลิ้งหลุนๆ ไปหน้าประตู ยังดีที่ไม่มีนักเตะฮอนดูรัสตรงนั้น ทำให้บราโว ก้มเก็บบอลเข้าไปกอดได้สบาย
นาที 77 ฮอนดูรัสเปลี่ยนตัวส่ง วอลเตอร์ มาร์ติเนซ ลงไปปั้นเกมแทน ราม่อน นูนเญซ
นาที 78 ชิลีเกือบทำได้ วิดาลยิงไกลระยะ 45 หลา บอลพุ่งจี้เข้าหาประตูบายาดาเรสล้มตัวปัดบอล แต่ยังไม่พ้นบอลไหลเข้าเท้าซานเชซที่ยืนอยู่ แปบอลให้วัลดิเวียที่ปรี่เข้ามาซัดจ่อๆ เต็มข้อ บอลพุ่งกระแทกตาข่ายแทบขาด แต่ผู้ตัดสินเป่าเป็นจังหวะล้ำหน้า ทำให้ชิลีชวดได้ประตูที่ 2
เข้า สู่ช่วงท้ายเกม ฮอนดูรัสดูเหมือนจะยอมรับสภาพ ปั้นเกมสู้ชิลีไม่ได้ นาที 80 ชิลีเปลี่ยนตัวส่งปาโบล กอนเตราส ลงไปแทนวิดาล
ถัดมา 5 นาที ชิลีถอดวัลดิเวียออกส่ง มาร์ค กอนซาเลซ ลงไปยืดเส้นยืดสาย แล้วสร้างความปั่นป่วนให้แผงหลังฮอนดูรัส โดยในนาที 90 กอนซาเลซโชว์เก๋า ลากบอลหน้าแผงหลังฮอนดูรัส 3 ตัว ตรงกรอบเขตโทษ ก่อนตวัดบอลยิงกะให้มุดเสียบคาน แต่บอลไม่มุดลง ลอยข้ามคานออกไป
ช่วง ทดเวลาบาดเจ็บ ชิลียังซ่า เติมรุกบุกใส่ฮอนดูรัส หวังกะซวกประตูที่ 2 แต่ไม่แม่นพอ จบเกมชิลีพิชิตฮอนดูรัสเบาะๆ 1-0 โดยเกมนัดต่อไปชิลีพบสวิตเซอร์แลนด์ ส่วนฮอนดูรัสพบสเปนในวันที่ 21 มิ.ย.
ผู้เล่นทั้งสองทีม ฮอนดูรัส : โนเอล บายาดาเรส, ออสมัน ชาเวซ, มายนอร์ ฟิเกรัว, เอมิลิโอ อีซากีร์เร่, เซร์คิโอ เมนโดซ่า, ราม่อน นูนเญซ, วิลสัน ปาลาซิออส, เอ็ดการ์ด อัลวาเรซ, อมาโด้ เกวาร่า, การ์ลอส ปาวอน, โรเจอร์ เอสปิโนซ่า
ชิลี : เคลาดิโอ บราโว, วัลโด้ ปอนเช่, เมาริซิโอ อิสล่า, การ์ลอส การ์โมน่า, การี เมเดล, อาร์ตูโร่ วิดาล, ฮอร์เค่ วัลดิเวีย, มาติอัส เฟร์นานเดซ, ฌอน โบเซอชูร์, โรดริโก้ มีย่าร์, อเล็กซิส ซานเชซ
กอ นซาโล่ ฆาร่า (ซ้าย) ขึ้นโขกแย่งบอลกลางอากาศกับ วอลเตอร์ มาร์ติเนซ ของฮอนดูรัส
เอ มิลิโอ อีซากีร์เร่ (กลาง) พาบอลฝ่าวงล้อมผู้เล่นชิลี
เหล่านักเตะชิลีร่วมฉลองหลังพังประตูขึ้นนำได้สำเร็จ
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น