วันอังคารที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2553

สรุปผลบอลโลก 14 มิ.ย. 53 คู่3



"แชมป์เก่า" อิตาลี หวิดสิ้นลายแชมป์เก่า เมื่อไล่ตีเจ๊า ปารากวัย ไปแบบหืดจับ 1-1 ในเกมกลุ่ม เอฟ เมื่อจันทร์ที่ 14 มิ.ย. ที่ผ่านมา


กลุ่ม เอฟ
อิตาลี 1 - ปารากวัย 1
สนาม : กรีน พอยท์ สเตเดี้ยม, เคป ทาวน์
ทีมชาติอิตาลี แชมป์เก่าลงสนามพบ ปารากวัย คู่แข่งกลุ่มเอฟ ในฟุตบอลโลก 2010 รอบแรก นัดแรกที่ กรีน พอยท์ สเตเดี้ยม เมือง เคป ทาวน์
มาร์เชลโล่ ลิปปี้ กุนซืออิตาลีไม่มี อันเดรีย ปีร์โล่ มิดฟิลด์ตัวหลักจากเอซี มิลานบาดเจ็บน่อง แต่เขาได้ ดานิเอเล่ เด รอสซี่ หายเจ็บน่อง ลงเล่นแดนกลาง อัลแบร์โต้ จิลาร์ดิโน่ เป็นกองหน้าตัวเป้า ทางด้าน เคราร์โด้ มาร์ติโน่ เทรนเนอร์ชาวอาร์เจนไตน์ของปารากวัยได้ ออสการ์ คาร์โดโซ่ หายเจ็บข้อเท้าซ้าย แต่เขาเป็นตัวสำรองเกมนี้ ซึ่งทีมมี เนลสัน วัลเดซ และ ลูคัส บาร์ริออส นำทัพแดนหน้า
นักเตะทั้งสองทีมลงเล่นท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาโดยตลอด โดยเกมครึ่งแรกเปิดฉากขึ้น ผ่านไปเพียงนาทีเดียว ริคคาร์โด้ มอนโตลิโว่ มิดฟิลด์อิตาลีที่เล่นแทน ปีร์โล่ เกมนี้บาดเจ็บข้อเท้าซ้าย หลังจากโดน คริสเตียน ริเวรอส กองกลางปารากวัยทำฟาวล์ แต่เขาสามารถลงเล่นต่อไปได้
ในช่วง 10 นาทีแรก ทีมแชมป์ฟุตบอลโลก 2006 เป็นฝ่ายครองบอลมากกว่า แต่ยังไม่มีจังหวะหวาดเสียวในการลุ้นทำประตู ขณะที่ ปารากวัย ตั้งรับเป็นส่วนใหญ่
นาที 16 อิตาลีได้ลูกฟรีคิก วินเชนโซ่ ยาควินต้า ยิงไปติด การ์ลอส โบเน็ต แบ็กขวาปารากวัย เคลียร์บอลทิ้งได้ก่อนที่ บอลจะมาเข้าทาง อัลแบร์โต้ จิลาร์ดิโน่
จากนั้นนาที 20 อิตาลีน่าได้ประตูเมื่อ ริคคาร์โด้ มอนโตลิโว่ ได้บอลขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งซ้าย ก่อนยิงไกล 25 หลา ทว่าเบาเกินไปบอลไปตรงตัว ฮุสโต้ วีย่าร์ ผู้รักษาประตูกัปตันทีมปารากวัย และนาทีถัดมา ปารากวัยโต้กลับเร็ว ออเรเลียโน่ ตอร์เรส มิดฟิลด์ซัลโวจากนอกกรอบเขตโทษไม่ตรงกรอบ
นาที 28 เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ เปิดลูกเตะมุมเข้ามาหน้าประตู วินเชนโซ่ ยาควินต้าซัดข้ามคาน
และแล้วนาที 39 จอร์โจ้ คิเอลลินี่ เซนเตอร์ฮาล์ฟอิตาลีทำฟาวล์ เนลสัน วัลเดซ ทำให้ปารากวัยได้ลูกฟรีคิกจากนอกกรอบเขตโทษฝั่งขวาระยะไกล 35 หลา ออเรเลียโน่ ตอร์เรส ปั่นฟรีคิกเข้ามาหน้าประตู อันโตลิน อัลคาราซ เซนเตอร์ฮาล์ฟขึ้นโหม่งได้ก่อน ดานิเอเล่ เด รอสซี่ และ ฟาบิโอ คันนาวาโร่ กัปตันทีม บอลพุ่งเสียบเสาแรกอย่างสวยงามให้ ปารากวัยนำ 1-0 จบครึ่งแรก ปารากวัยนำ 1-0
เข้าสู่ครึ่งหลัง นาที 46 อิตาลีเปลี่ยนเอา จานลุยจิ บุฟฟ่อน ผู้รักษาประตูมือ 1 ออกจากสนาม เนื่องจากบาดเจ็บ โดยส่ง เฟเดริโก้ มาร์เค็ตติ เฝ้าเสาแทน
นาที 52 จานลูก้า ซามบร็อตต้า โยนบอลยาวจากนอกกรอบเขตโทษฝั่งขวา ทว่า ซิโมเน่ เปเป้ จะตีลังกายิง แต่ไม่โดนบอล และสองนาทีถัดมา เอ็นริเก้ เวร่า มิดฟิลด์ปารากวัยได้ซัดในกรอบเขตโทษฝั่งขวา บอลเหินข้ามคานหวุดหวิด
ทัพอัซซูร์รี่ บุกขึ้นมาอีกครั้ง ริคคาร์โด้ มอนโตลิโว่ ซัลโวระยะ 20 หลาไปตรงตัว ฮุสโต้ วีย่าร์ นาที 54 พร้อมกับที่สี่นาทีต่อมา อิตาลีส่ง เมาโร คาโมราเนซี่ ลงเล่นแทน เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ และปารากวัยเปลี่ยนตัวสำรองคนแรกนาที 60 โจนาธาน ซานตาน่า เข้ามาแทน ออเรเลียโน่ ตอร์เรส
นาที 63 ซิโมเน่ เปเป้ เปิดลูกเตะมุมจากทางฝั่งซ้าย บอลลอยโด่งไปที่เสาสอง ฮุสโต้ วีย่าร์ ออกมาจะตัดบอล แต่ไม่โดน บอลพุ่งมาเข้าทาง ดานิเอเล่ เด รอสซี่ ซัดระยะเผาขนตุงตาข่ายให้ อิตาลี ตีเสมอ 1-1 ได้สำเร็จ
จากนั้น เปาโล ดา ซิลวา เซนเตอร์ฮาล์ฟปารากวัยทำฟาวล์ด้วยการกระแทกเข้าที่ไหล่ของ ริคคาร์โด้ มอนโตลิโว่ ในกรอบเขตโทษนาที 65 ทว่าผู้ตัดสิน เบนิโต้ อาร์ชุนเดีย ชาวเม็กซิกัน ไม่ได้เป่าให้ อิตาลี ได้ลูกจุดโทษแต่อย่างใด
ปารากวัยแก้เกมส่ง โรเก้ ซานตา ครูซ เติมความสดแดนหน้า ด้วยการลงเล่นแทน เนลสัน วัลเดซ นาที 68 และสี่นาทีต่อมา อัลแบร์โต้ จิลาร์ดิโน่ ถูกเปลี่ยนตัวออก อันโตนิโอ ดิ นาตาเล่ ลงมาเล่นแทน รวมถึงปารากวัยส่ง ออสการ์ คาโดโซ่ แทน ลูคัส บาร์ริออส นาที 76 เพื่อยิงประตูเพิ่มให้ได้
นาที 79 เปเป้ ยิงไกลนอกกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย บอลไปตรงตัว วีย่าร์
และในช่วง 10 นาทีสุดท้าย ทั้งสองทีมต่างมีจังหวะลุ้นทำประตู ทว่ายิงเพิ่มไม่สำเร็จ หมดเวลาการแข่งขัน อิตาลี เสมอ ปารากวัย 1-1 โดยเกมนัดที่ 2 ของรอบแรก อิตาลี จะพบ นิว ซีแลนด์ ที่เนลสปริท และ ปารากวัย เจอ สโลวาเกีย ที่บลูมฟองเทน วันอาทิตย์ที่ 20 มิถุนายน
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
อิตาลี : จานลุยจิ บุฟฟ่อน (เฟเดริโก้ มาร์เค็ตติ น.46) - จานลูก้า ซามบร็อตต้า, ฟาบิโอ คันนาวาโร่ (กัปตันทีม), จอร์โจ้ คิเอลลินี่, โดเมนิโก้ คริสซิโต้ - ริคคาร์โด้ มอนโตลิโว่, ดานิเอเล่ เด รอสซี่ - วินเชนโซ่ ยาควินต้า, เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ (เมาโร คาโมราเนซี่ น.58), ซิโมเน่ เปเป้ - อัลแบร์โต้ จิลาร์ดิโน่ (อันโตนิโอ ดิ นาตาเล่ น.72)
สำรองที่ไม่ได้ใช้ : มอร์กัน เด ซานติส (ผู้รักษาประตู), คริสเตียน มาจโจ้, ซัลวาตอเร่ บ็อคเค็ตติ, เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่, เกนนาโร่ กัตตูโซ่, อันเดรีย ปีร์โล่, อันเจโล ปาลอมโบ, ฟาบิโอ กวายาเรลล่า, จามเปาโล ปาซซินี่
ใบเหลือง : เมาโร คาโมราเนซี่ น.69
ปารากวัย : ฮุสโต้ วีย่าร์ (กัปตันทีม) - การ์ลอส โบเน็ต, เปาโล ดา ซิลวา, อันโตลิน อัลคาราซ, เคลาดิโอ โมเรล โรดริเกซ - คริสเตียน ริเวรอส, เอ็นริเก้ เวร่า, ออเรเลียโน่ ตอร์เรส (โจนาธาน ซานตาน่า น.60), วิคเตอร์ คาเซเรส - เนลสัน วัลเดซ (โรเก้ ซานตา ครูซ น.68), ลูคัส บาร์ริออส (ออสการ์ คาร์โดโซ่ น.76)
สำรองที่ไม่ได้ใช้ : อัลโด้ โบบาดิลล่า (ผู้รักษาประตู), ดีเอโก้ บาร์เรโต้ (ผู้รักษาประตู), ฮูลิโอ เซซ่าร์ คาเซเรส, เดนิส คานิซ่า, ดาริโอ เวรอน, เนสตอร์ ออร์ติโกซ่า, เอ็ดการ์ บาร์เรโต้, โรดอลโฟ่ กามาร์ร่า, เอ็ดการ์ เบนิเตซ
ใบเหลือง : วิคเตอร์ คาเซเรส น.62
ผู้ตัดสิน : เบนิโต้ อาร์ชุนเดีย (เม็กซิโก)



อัล แบร์โต้ จิลาร์ดิโน่ บังบอลจากการประกบของ อันโตลิน อัลคาราซ



อันโตลิน อัลคาราซ ปราการหลัง ปารากวัย โขกให้ทีมออกนำ 1-0


จานลูก้า ซามบร็อตต้า เบียดแย่งบอลกับ โจนาธาน ซานตาน่า


มาร์เซโล่ ลิปปี้ ติวแผนการเล่นให้กับ ซิโมเน่ เปเป้


ดานิเอเล่ เด รอสซี่ สะใจสุดๆ หลังซัดประตูให้ อิตาลี ตีเสมอ 1-1

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น