วันศุกร์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2553

สรุปผลบอลโลก 16 มิ.ย. 53 คู่2



ทำเอาแฟนบอลทั่วโลกต้องตกตะลึงไปตามๆ กัน สำหรับผลงานนัดล่าสุดของพลพรรค "กระทิงดุ" สเปน เมื่อเปิดนัดแรกฟุตบอลโลก 2010 กลุ่ม เอช เจอกับทีมรองบ่อนอย่าง สวิตเซอร์แลนด์ แต่กลับไม่สามารถพังประตูได้ หนำซ้ำกลับโดนทีเด็ดทีมนาฬิกา เชือด 1-0 ส่งให้ สเปน กลายเป็นทีมยักษ์ใหญ่ทีมแรกที่เปิดสนามด้วยความพ่ายแพ้

ฟุตบอลโลก 2010

รอบแรก กลุ่ม เอช

วันพุธที่ 16 มิถุนายน 2553

สเปน 0 - 1 สวิตเซอร์แลนด์

สนาม : โมเซส มาบิด้า สเตเดี้ยม

กระทิงดุ จัดทัพตามคาดได้ อันเดรส อิเนียสต้า หายเจ็บกลับมาเป็นตัวจริง แต่ เฟร์นานโด ตอร์เรส กับ เชส ฟาเบรกาส เป็นแค่ตัวสำรองเท่านั้น แนวรุกเลือก ดาบิด บีย่า เป็นกองหน้าตัวเป้าคนเดียว
ด้านทีมจากแดนนาฬิกาไม่มีกัปตันทีม อเล็กซานเดอร์ ฟราย กับ วาลอน เบห์รามี่ ที่ไม่ฟิต แนวรุกเลือก เอเรน แดร์ดิย็อค จับคู่กับ แบลส เอ็นคูโฟ่ แทน
นี่คือเกมล้างตาจากฟุตบอลโลก 1994 รอบ 16 ทีมสุดท้าย ที่สเปน ชนะ 3-0 อย่างไรก็ตาม สวิตเซอร์แลนด์ ไม่เสียประตูในเกมรอบสุดท้ายมา 394 นาทีแล้ว เพราะ 4 นัดในเวิลด์คัพ 2006 ไม่เสียประตูเลย
เริ่มเกมขึ้นมา กระทิงดุ ครองบอลได้มากกว่าอย่างเห็นได้ชัด แต่ สวิส ก็เน้นตั้งรับเหนียวแน่น ทำให้โอกาสสร้างสรรค์จังหวะเข้าไปจบสกอร์มีไม่มากนัก
นาทีที่ 17 เป็นโอกาสของ สเปน เซร์คิโอ รามอส ลุยขึ้นมาแล้วล็อกเข้าเขตโทษด้านขวา แต่ดันเลือกยิงด้วยเท้าซ้ายบดออกหลังไป 4 นาทีต่อมา กระทิงดุ อันเดรส อิเนียสต้า ได้ซัดหน้าเขตก็ไม่ผ่านมือ ดีเอโก้ เบนาโญ่
เกมผ่านไปครึ่งชั่วโมง สเปน มาได้ฟรีคิกระยะอันตราย 25 หลากลางประตู เมื่อ อิเนียสต้า ถูก สเตฟาน กริชติ้ง ทำฟาวล์ แต่ ดาบิด บีย่า ก็ซัดฟรีคิกด้วยขวาแฉลบกำแพงออกหลัง
นาทีที่ 36 สวิตเซอร์แลนด์ ต้องเปลี่ยนตัวคนแรก ฟิลิปป์ เซนเดอรอส บาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหว ต้องส่ง สตีฟ ฟอน เบอร์เก้น ลงเล่นแทน
สเปน พลาดโอกาสไปอีกครั้งในนาทีที่ 43 ดาบิด บีย่า ไหลให้ อิเนียสต้า อัดจากหน้ากรอบโทษข้ามคานออกไป จบครึ่งแรก ยังเสมอกันอยู่ 0-0

ครึ่งหลัง สเปนมีลุ้นก่อนในนาทีที่ 50 จากลูกปั่นโค้งระยะ 25 หลาของ ชาบี อลอนโซ่ แต่บอลแฉลบศีรษะ สเตฟาน กริชติ้ง ข้ามคานออกหลัง

นาทีถัดมา กระทิงดุพยายามจะเอาประตูให้ได้ ชาบี เอร์นานเดซ วางบอลด้วยเท้าซ้าย เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ โหม่งเช็ดย้อยๆ ไปที่เสาสอง เบนาโญ่ ลอยตัวปัดออกก่อนที่ เซร์คิโอ รามอส ลอยตัวเข้าหาบอล

กลับเป็นสวิตเซอร์แลนด์ที่มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 อย่างเหลือเชื่อในนาทีที่ 52 จากการต่อบอลที่หลุดถึง เอเรน แดร์ดิย็อค พยายามแตะหลบ กาซียาส แล้วลอยตัวไปกระแทก ปิเก้ ที่วิ่งตีคู่มา บอลติดตัว ปิเก้ อยู่หน้าประตู เกลสัน แฟร์กน็องด์ วิ่งเข้ามาจิ้มจ่อๆ เข้าไปไม่เหลือ เป็นประตูที่สองของเกลสันในนามทีมชาติ

พอเสียประตู สเปนดาหน้าบุกแหลก นาทีที่ 58 ดาบิด บีย่า กดด้วยขวาติดเซฟ เบนาโญ่ ให้หลัง 2 นาที เซร์คิโอ รามอส ได้ยิงก็ไม่เข้ากรอบ

นาทีที่ 62 สเปนต้องเปลี่ยนสองคนส่ง เฟร์นานโด ตอร์เรส กับ เฆซุส นาบาส ลงไปแทน เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ กับ ดาบิด ซิลบา

กระทิงดุน่าได้ประตูตีเสมออย่างที่สุดในนาทีที่ 70 ชาบี อลอนโซ่ กระหน่ำด้วยเท้าขวาจากระยะ 25 หลา บอลพุ่งกระแทกคานกระดอนออกมาอย่างน่าเสียดาย

แม้สเปนจะบุกหนัก แต่เกือบเสียลูกสองให้สวิตเซอร์แลนด์ในนาทีที่ 74 เมื่อ เอเรน แดร์ดิย็อก โชว์ความสามารถเฉพาะตัว ล็อกหลบ ปิเก้ ในเขตโทษ ก่อนจะจิ้มหนี ปูโยล อีกจังหวะ ก่อนดีดด้วยเท้าขวาผ่าน กาซียาส ไปแล้วแต่ชนเสากระเด้งออกมา

ช่วงเวลาที่เหลือ สเปนบุกหนักแต่ก็ทวงประตูคืนไม่ได้ จบเกม สวิตเซอร์แลนด์ พลิกล็อกเอาชนะ สเปน ไปได้ 1-0 เป็นการเพิ่มสถิติไม่เสียประตูของสวิสในเกมฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ติดต่อกันเป็น 484 นาทีแล้ว

ผู้เล่นทั้งสองทีม
สเปน : อีเกร์ กาซียาส, การ์เลส ปูโยล, เคราร์ด ปิเก้, เซร์คิโอ รามอส, โจน กัปเดบีล่า, ชาบี เอร์นานเดซ, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, ชาบี อลอนโซ่, อันเดรส อิเนียสต้า, ดาบิด ซิลบา, ดาบิด บีย่า
สวิตเซอร์แลนด์ : ดีเอโก้ เบนาโญ่, เรโต้ ซีกเลอร์, สเตฟาน กริชติ้ง, ฟิลิปป์ เซนเดอรอส, สเตฟาน ลิคท์สไตเนอร์, เบนจามิน ฮักเกิ้ล, ตรังกีโย่ บาร์เน็ตต้า, โกคาน อินเลอร์, เกลสัน แฟร์กน็องด์, เอเรน แดร์ดิย็อค, แบลส เอ็นคูโฟ่
ผู้ตัดสิน : ฮาวเวิร์ด เว็บบ์ (อังกฤษ)




เอ เรน แดร์ดิย็อค (กลาง) ดาวยิงสวิสครองบอลท่ามกลางแนวรับสเปน



เกลสัน แฟร์กน็องเดส กับจังหวะซัดประตูชัยให้กับสวิตเซอร์แลนด์



เฟร์ นานโด ตอร์เรส (ซ้าย) ถูกเปลี่ยนลงมาในครึ่งหลังยังคายพิษสงไม่ออก



จังหวะซัดบอลไปชนคานเต็มๆ ของ ชาบี อลอนโซ่ (เบอร์ 14)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น