วันจันทร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2553

สรุปผลบอลโลก 19 มิ.ย. 53



"อัศวินสีส้ม" ได้ทีเด็ดจาก เวสลี่ย์ สไนเดอร์ ซัดประตูโทนช่วยให้ทีมเฉือนหวิว ญี่ปุ่น 1-0 พร้อมกับตีตั๋วผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายเป็นที่เรียบร้อยเป็นทีมแรกของศึกฟุตบอลโลก 2010

ฟุตบอลโลก 2010

รอบแรก กลุ่ม อี

วันเสาร์ที่ 19 มิถุนายน 2553

ฮอลแลนด์ 1 - 0 ญี่ปุ่น

สนาม : เดอร์บัน สเตเดี้ยม

ที่สนามเดอร์บัน สเตเดี้ยม เกมนัดที่สองระหว่าง "อัศวินสีส้ม" ฮอลแลนด์ พบกับแข้ง "ซามูไร" ญี่ปุ่น โดยนัดแรกขุนพลซามูไรเอาชนะ แคเมอรูน มาได้ 1-0 ขณะที่ ฮอลแลนด์ นัดแรกชนะ เดนมาร์ก มาด้วยสกอร์ 2-0
เกมนี้หากทีมใดคว้าชัยชนะโอกาสจะผ่านเข้าสู่รอบสองสดใสทีเดียว อัศวินสีส้ม ยังใช้ชุดเดิมที่ชนะ เดนมาร์ก มานัดแรกลงทำศึกไม่มีเปลี่ยนแปลงผู้เล่นแต่อย่างใด โดยวาง ฟาน เพอร์ซี่ เป็นหัวหอกตัวเป้า
ญี่ปุ่นยังใช้ชุดเดิมลงสู้ อุณหภูมิในวันนี้ประมาณ 22 องศา สภาพอากาศแจ่มใสกำลังสบายทีเดียว และแฟนบอลก็เข้ามาชมกันแน่นสนาม
เปิดฉากครึ่งเวลาแรกญี่ปุ่นเน้นเล่นให้รัดกุมไม่ผลีผลาม ขณะที่ฮอลแลนด์ โถมเข้ากดดันผู้เล่นญี่ปุ่นทันทีตัดบอลครองเกมหาช่องเจาะเข้าทำ
น.4 ฟาน เพอร์ซี่ กระชากขึ้นไปทางริมเส้นฝั่งซ้ายแล้วหักหลบกองหลังญี่ปุ่นเข้าไปถึงเส้นหลัง แล้วเปิดไปหน้าประตูแต่โดนผู้เล่นญี่ปุ่นโขกทิ้งออกหลังไปได้เตะมุมเข้ามาก็ ไม่ได้ลุ้น
เกมช่วงแรกเริ่มเป็นของ ฮอลแลนด์ ที่ครองบอลได้มากกว่าแต่ยังเจาะไม่เข้าเพราะโดนผู้เล่นญี่ปุ่นเข้าไล่เร็วทำ ให้แทบไม่มีโอกาสแต่งบอล
น.7 ฮอลแลนด์ได้บุกอีกครั้งจังหวะต่อบอลมาทางกรอบเขตโทษด้านซ้าย ฟาน เพอร์ซี่ ได้จังหวะจะกระชากไปเส้นหลังแต่โดน โคมาโนะ เข้าสกัดด้านหลังจนล้มลงและจังหวะล้มลงนั้นปลายสตั๊ดของ ฟาน เพอร์ซี่ ไปโดนหน้าของ โคมาโนะ จนแตกได้เลือดต้องหามออกไปปฐมพยาบาลข้างสนามอยู่นานเกือบ 5 นาที
จากลูกฟรีคิก สไนเดอร์ ซัดไม่ได้ลุ้นเหินข้ามคานออกไป
น.10 ญี่ปุ่นได้โอกาสบุกเป็นครั้งแรก นางาโตโมะ แบ็กจอมบุกเติมขึ้นไปทางริมเส้นฝั่งซ้ายกระชากไปเกือบถึงเส้นหลังก่อนหัก เข้ามาตรงกรอบเขตโทษแต่เห็นว่าผู้เล่นฮอลแลนด์อยู่กันเต็มจึงตัดสินใจยิงไกล บอลหลุดออกเสาสองไปแบบไม่มีลุ้น
ช่วง 15 นาทีแรกเกมตอบโต้กันสนุกฮอลแลนด์แม้ครองเกมได้มากกว่าแต่โอกาสเจาะเข้าไปทำ ประตูยังไม่มี นักเตะแดนซามูไรช่วยกันไล่ได้ดีแถมนานๆ ครั้งก็มีโอกาสโต้กลับด้วยแต่ยังไม่มีใครพลาดสกอร์ยัง 0-0
เกมส่วนใหญ่ญี่ปุ่นยังตั้งเกมรับไว้ได้อย่างเหนียวแน่นจนฮอลแลนด์ ไม่มีโอกาสทะลุทะลวงเข้ามาได้เลย
เกมผ่าน 25 นาทีไปแบบจืดชืดเพราะแทบไม่มีจังหวะส่องลุ้นประตูกันเลย ด้านญี่ปุ่นคงเล่นตามแผนด้วยความอดทนเน้นตั้งรับให้เหนียวหนึบแล้วคอยจังหวะ โต้กลับ
น.32 จังหวะหวาดเสียวที่สุดของญี่ปุ่นเมื่อได้ฟรีคิกเกือบกลางสนาม เอ็นโดะ เปิดเข้าไปหน้าประตู ฮอนดะ ได้ขึ้นโขกแต่บอลก็ข้ามคานออกไป
น.35 จังหวะญี่ปุ่นโต้กลับเร็ว มัตซึอิ ได้บอลทางขวาก่อนแตะหลบ ฟาน เดอร์ วีล ไปได้แต่นักเตะแดนกังหันลมเอาตัวขวางไว้จน มัตซึอิ ล้มลงจึงโดนใบเหลืองแรกของเกม
ญี่ปุ่นได้ตะลุยอีกครั้ง โคมาโนะ เปิดเข้าไปหน้าประตูถึง ฮอนดะ แต่จับบอลไม่อยู่กระฉอกมาถึง โอคูโบะ แล้วจ่ายมาให้ เอ็นโดะ ยิงไกลแต่บอลพุ่งวาบไปหน้าประตู สเตเคเลนเบิร์ก พุ่งคว้าไว้ได้แต่จังหวะนี้ก็ทำเอากองเชียร์กังหันลมหวาดเสียวไปตามๆ กัน
ช่วงเวลาทดเจ็บฮอลแลนด์มีโอกาสได้ลุ้นเมื่อทำเกมไปทางริมกรอบเขต โทษฝั่งขวา ฟาน เดอร์ ฟาร์ท ได้ซัดไกลกะให้เสียบเสาแรกแต่ คาวาชิมะ ผู้รักษาประตูญี่ปุ่นดักรออยู่แล้วรับเข้าซองสบายก่อนจบครึ่งแรกไปด้วยความ จืดชืดที่สกอร์ 0-0

เกมครึ่งหลังทั้งสองทีมยังไม่มีใครเปลี่ยนตัวผู้เล่น เปิดฉากขึ้นมาฮอลแลนด์ได้เขี่ยบอลเล่นก่อนบ้าง และเป็นฮอลแลนด์บุกเข้าใส่ก่อนเหมือนเดิม น.46 บุกขึ้นไปทางริมเส้นฝั่งซ้ายจนได้ทุ่ม ฟาน บรองค์ฮอร์สท์ ทุ่มมาให้ ฟาน เพอร์ซี่ ได้โหม่งแต่เบาเกินไป คาวาชิมะรับกินสบาย ขุนพลกังหันลมยังเดินเกมบุกเข้าใส่ต่อเนื่อง

อีกสองนาทีต่อมาก็เกือบจะได้ประตูจากลูกโยนยาวไปหน้าประตู บอลข้ามกองหลังญี่ปุ่นไปถึง ฟาน เพอร์ซี่ ที่จะยิงจังหวะแรกทันทีแต่วางเท้าไม่ดีบอลหลุดออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
น.48 ฮอลแลนด์ได้ลูกฟรีคิกตรงริมกรอบเขตโทษฝั่งขวาระยะประมาณ 30 หลา ฟาน เดอร์ ฟาร์ท ปั่นโค้งเข้าไปหน้าประตู เดิร์ค เค้าท์ โถมขึ้นจะโหม่งได้อยู่แล้วแต่ทานากะกองหลังตัวเก่งขึ้นตัดหน้าโขกทิ้งออกไป ได้หวุดหวิด อย่างไรก็ตาม

น.53 กองเชียร์สีส้มก็ได้เฮสนั่นลั่นสังเวียนหลังจากอึดอัดกันมานาน เมื่อ ฟาน บรองค์ฮอร์สท์ เปิดเข้าไปหน้าประตูกองหลังญี่ปุ่นสกัดบอลไม่ดีไปเข้าตัว ฟาน เพอร์ซี่ จับแต่งแต่ไม่มีจังหวะยิงไหลคืนหลังไปให้สไนเดอร์วิ่งเข้ามาซัดด้วยขวาเต็ม แรงบอลพุ่งเข้าหาประตู คาวาชิมะพุ่งปัดโดนแต่ลูกแรงหลุดเข้าประตูให้ ฮอลแลนด์ออกนำ 1-0
หลังจากเสียประตู ญี่ปุ่นก็เปิดเกมบุกเข้าใส่บ้าง เพื่อตีเสมอให้ได้ น.54 โอคูโบะมีจังหวะยิงไกลที่กรอบเขตโทษแต่เบาเกิน สเตเคเลนเบิร์กรับเอาไว้ได้ไม่ยาก ต่อมามีโอกาสได้เตะมุมสองสามครั้งติดต่อกันแต่ก็โดนกองหลังฮอลแลนด์สกัดไว้ ได้หมดและอัศวินสีส้มปรับแผนถอยกลับมาเน้นเกมรับเหมือนกับที่ญี่ปุ่นเคยใช้ ในครึ่งแรกบ้างเปิดโอกาสให้ญี่ปุ่นได้บุกเข้าใส่มากขึ้น
น.59 ญี่ปุ่นได้ฟรีคิกทางฝั่งซ้ายระยะประมาณ 35 หลา เอ็นโดะเปิดเข้าไปหน้าประตู อุราวะทะยานเข้ามาโหม่งเช็ดกลับหลังหวังให้เข้าเสาสองแต่ว่าสเตเคเลนเบิร์ กผู้รักษาประตูกังหันลมยืนรับเข้าอ้อมอก ญี่ปุ่นยังตามตีเสมอไม่ได้ ต่อมา
น.63 ญี่ปุ่นปรับเกมด้วยการถอด มัตซึอิ กองกลางที่นัดนี้ทำเกมได้วูบวาบแล้วส่ง ชึนซึเกะ นากามูระ อดีตนักเตะเซลติก ในสกอตแลนด์จอมปั่นฟรีคิกลงมาเล่นแทน ซึ่งญี่ปุ่นหวังใช้ทีเด็ดของนากามูระตีเสมอให้ได้ ขณะที่ฮอลแลนด์หลังจากขึ้นนำก็ไม่โหมเกมรุกเหมือนก่อน อาศัยการต่อบอลเน้นความแน่นอนแล้วขึ้นเกมทางริมเส้นทั้งสองฝั่งแล้วเปิดเข้า ไป แต่กองหลังญี่ปุ่นก็เคลียร์ออกมาได้หมด

น.69 ญี่ปุ่นมีลุ้นอีกหนเมื่อทำเกมขึ้นทางฝั่งขวา นากามูระเปิดผ่านหน้าประตูมาที่เสาสองบอลเกือบจะเข้าเท้าฮอนดะอยู่แล้วแต่ ฟาน เดอร์ วีล พุ่งมาสกัดออกหลังไปได้เฉียดฉิว
จากนั้น น.71 ฮอลแลนด์ปรับเกมบ้างด้วยการถอด ฟาน เดอร์ ฟาร์ท ที่เริ่มแผ่วในครึ่งหลังแล้วส่ง เอลเยโร่ เอเลีย กองหน้าดาวรุ่งฮัมบูร์ก วัย 23 ปี ลงไปล่าตาข่ายแทน ช่วงนี้ฮอลแลนด์ยังคงเน้นเกมครองบอลให้เหนียวแน่นไม่ผลีผลามปล่อยให้นักเตะ ยุ่นวิ่งพล่านไล่บอลไปทั้งสนาม แต่ยังกดดันฮอลแลนด์ไม่ได้ เพราะนักเตะกังหันเมื่อเห็นว่าเจาะไม่ได้ก็จ่ายคืนหลัง
น.76 ญี่ปุ่นปรับเกมอีกครั้งทิ้งไพ่สองใบสุดท้ายโดยเอาฮาเซเบะออกส่ง ชินจิ โอกาซากิ ลงไปเติมในแดนหน้าคู่กับฮอนดะ และถอด โยชิโตะ โอคูโบะ กองหน้าที่วิ่งไล่จนหมดแรงแล้วให้ เคจิ ทามาดะ ลงไปเล่นแทนปรับเกมเล่นหน้าสองคนหวังเปิดเกมบุกเต็มตัวหลังก่อนหน้านี้ใช้ ฮอนดะยืนเป็นหัวหอกอยู่คนเดียว แต่เกมของญี่ปุ่นก็ยังเจาะแนวรับคู่ต่อสู้ไม่เข้า
ถึง น.82 ฮอลแลนด์ปรับเกมอีกครั้งหันมาเน้นรับ เมื่อส่ง อิบราฮิม อเฟลลาย มิดฟิลด์จากพีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ลงไปแทน สไนเดอร์ และใน น.84 การปรับเกมเกือบได้ผลฮอลแลนด์โต้กลับเร็ว เมื่อเอเลียจ่ายทะลุช่องให้อเฟลลายหลุดเข้าไปทางด้านซ้ายดวลต่อตัวตัวกับคา วาชิมะ แต่นายทวารยุ่นยังเหนียวเซฟเอาไว้ได้
ช่วง 5 นาทีสุดท้ายคิดอะไรไม่ออกทำเกมไม่ได้ หันไปบอมบ์ใส่ แต่ก็ไม่มีอะไรน่ากลัว ไม่โดนกองหลังสกัด สเตเคเลนเบิร์กก็รับเอาไว้ได้ น.87 ฮอลแลนด์เปลี่ยนตัวคนสุดท้ายส่ง คลาส แยน ฮุนเตลาร์ ลงไปแทน โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ต่อมาฮอลแลนด์เกือบได้ประตูที่สองจากเกมโต้กลับ ฮุนเตลาร์ได้บอลจากเพื่อนที่กรอบเขตโทษจังหวะพลิกตัวบอลแรงเกิน แต่กลายเป็นดีเมื่อไปเข้าทางอเฟลลาย หลุดเข้าไปดวลกับคาวาชิมะอีกครั้ง แต่ก็ยังยิงติดตัวนายทวารญี่ปุ่นเหมือนเดิม แม้บอลจะปลิ้นไปหน้าประตูแต่ไม่มีใครเติมขึ้นมา นากาซาวะวิ่งเข้าไปสกัดทิ้งออกไปได้ แต่ญี่ปุ่นที่เกือบเสียประตู

แต่นาทีสุดท้ายก็มีลุ้นตีเสมอได้เหมือนกันเมื่อบอลเปิดจากหลังให้ นากามูระโขกต่อไปให้ โอกาซากิหลุดเข้าไปทางซ้ายเจ้าตัววิ่งเข้าไปซัดด้วยซ้ายบอลเหินข้ามคานไปแค่ นิดเดียวจากนั้นนักเตะแดนอาทิตย์อุทัยเปิดเกมรุกใส่อย่างหนัก แต่ฮอลแลนด์ก็รับไว้ได้อย่างเหนียวแน่น เวลาที่เหลือทำอะไรเพิ่มไม่ได้ จบเกมอัศวินสีส้มเอาชนะไป 1-0 เก็บสามแต้มเต็ม พร้อมกับผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ส่วนญี่ปุ่น ต้องไปลุ้นเข้ารอบกับเดนมาร์ก ส่วนฮอลแลนด์ เจอกับแคเมอรูน ในวันที่ 24 มิ.ย. 2553 เวลา 01.30 น. เตะพร้อมกันทั้งสองคู่

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ฮอลแลนด์ : มาร์เตน สเตเคเลนเบิร์ก, เกรกอรี่ ฟาน เดอร์ วีล จอห์นนี่ ไฮติงก้า, โยริส มาไธจ์เซ่น, โจวานนี่ ฟาน บรองค์ฮอร์สท์, มาร์ค ฟาน บอมเมล, เดิร์ค เค้าท์, ไนเจล เด ยองก์, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่, เวสลี่ย์ สไนเดอร์, ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท
ญี่ปุ่น : เอจิ คาวาชิมะ, บูกิ อาเบะ อุราวะ, ยูอิจิ โคมาโนะ, ยูจิ นากาซาวะ, มาร์คุส ตูลีโอ ทานากะ, ยูโตะ นางาโตโมะ, ยาซึฮิโตะ เอ็นโดะ, ไดซึเกะ มัตซึอิ, โยชิโตะ โอคูโบะ, มาโกโตะ ฮาเซเบะ, เคซึเกะ ฮอนดะ
ผู้ตัดสิน : เฮคเตอร์ บัลดาสซี่ (อาร์เจนตินา)




เวสลี่ ย์ สไนเดอร์ มิดฟิลด์ดัตช์กดด้วยขวาเต็มข้อส่งฮอลแลนด์ขึ้นนำ 1-0



เคซึเกะ ฮอนดะ (ขวา) เข้าแย่งบอลกับ เดิร์ค เค้าท์ ของฮอลแลนด์



ชิน จิ โอกาซากิ (เบอร์ 9) พลาดโอกาสตีเสมอให้กับทัพซามูไรอย่างน่าเสียดายในช่วงท้ายเกม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น