วันศุกร์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

การ์ตูนฟุตบอล สนุกๆ


ขอพักบอลโลกในอดีตไว้ช่วงนึง

1.กัปตันซึบาสะ (โยอิจิ ทาคาฮาชิ)
หากจะพูดถึงการ์ตูนฟุตบอลที่ยอดฮิตตลอดกาลในบ้านเรา และ หลายคนมักนึกถึงเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกเลย นั่นก็คือ กัปตันซึบาสะ ครับ ซึ่งจัดได้ว่าเป็นการ์ตูนฟุตบอลที่คลาสสิค และ เป็นการ์ตูนที่สร้างแรงบันดาลใจให้เด็กๆหรือใครหลายคนนั้น อยากจะเป็นนักฟุตบอลที่เก่งกาจแบบ โอโซระ ซึบาสะ ให้ได้ โดยตามเนื้อเรื่องนั้น ซึบาสะ จะใช้ชีวิตอยู่กับกีฬาฟุตบอลมาโดยตลอด เพราะ ฟุตบอลนั้น คือ เพื่อนของเขา จุดที่สร้างตำนานความยิ่งใหญ่ของซึบาสะ นั่นก็คือ เขาพาทีม นันคัทสึ ซึ่งเป็นทีมโรงเรียนของเขา ชนะเลิศในการแข่งขันฟุตบอลทั่วประเทศ โดยล้มทีม รร.เมวะ ที่มี เฮียวงะ โคจิโร่ลงได้ หลังจากประสบความสำเร็จกับนันคัทสึแล้ว ซึบาสะก็จากญี่ปุ่น เพื่อไปฝึกฟุตบอลกับทีม เซาเปาโล ในบราซิล ตามคำชักชวนของ โรแบร์โต้ ฮอนโง ผู้ที่ทำให้ซึบาสะรู้จักกับความสนุกในกีฬาฟุตบอลนั่นเอง หลังจากที่ซึบาสะกลับจากบราซิล เขาก็ติดทีมเยาวชนทีมชาติญี่ปุ่น และได้ไปแข่งขันในระดับโลก ซึบาสะนั้นก็ได้ฝ่าฝันกับอุปสรรค์นานับประการ และได้ประลองกับักฟุตบอลฝีเท้าดีอย่าง นาตูเลซา(บราซิล) คาร์ลไฮน์ ชไนเดอร์(เยอร์มัน) นายทวารมุลเลอร์(เยอร์มัน) จนกระทั่งได้แชมป์โลก และ ท้ายที่สุดเขาก็ได้ไปค้าแข้งที่ยุโรป กับทีม บาร์เซโลน่า ในที่สุด
ในการ์ตูนเรื่องนี้นั้น ไม่เพียงแค่ ซึบาสะ จะมีบทเด่นเท่านั้น ยังมีคาแร็คเตอร์ตัวอื่นๆที่ผู้อ่านมักจำกันได้อย่าง ซานาเอะ เพื่อนสาวผู้ที่คอยเชียร์ซึบาสะตลอดเวลา วากาบายาชิ โกล์ฝีมือดีจากทีมฮัมบูร์ก วากาชิมัตซึ โกล์จอมลีลาทีมชาติญี่ปุ่น สองพี่น้องฝาแฝดทาจิบานะ กับ ท่าเหินอากาศอันมหัศจรรย์ อิชิซากิ กองหลังจอมทุ่มเทที่เป็นเพื่อนคนสนิทของซึบาสะ และ มิซากิ คู่หูของซึบาสะ ในแดนหน้า และ เฮียวงะ กองหน้าเลือดร้อนประจำทีมชาติญี่ปุ่น เป็นต้น
และด้วยความคลาสสิคของซึบาสะนั้น โดยเฉพาะเนื้อเรื่องนั้น ก็เลยถูกการ์ตูนเรื่องหลังๆบางเรื่องนำมุขจากการ์ตูนเรื่องนี้มาใช้ โดยเฉพาะ "ท่าไม้ตาย" ซึ่งสึบาสะนั้น ก็มี ไดรฟ์ ชู้ต เป็นท่าประจำ ส่วน เฮียวงะ ก็มี ไทเกอร์ช็อต ชไนเดอร์จากเยอร์มัน ก็มี ไฟเออร์ ช็อต เป็นท่าไม้ตายเป็นต้น แถม เรื่องนี้นั้น ก็มีมุขที่คนอ่านหลายคนจดจำนั่นก็คือ ขณะที่พวกเขาเล่นฟุตบอลอยู่ ก็มักจะนึกถึงอดีตในเรื่องต่างๆไม่ว่าจะเป็นการฝึกฝนมาอย่างหนักเกินมนุษย์ มิตรภาพระหว่างเพื่อน แถมคิดแต่ละทีก็ยาวนานเหลือเกิน ก็เลยสงสัยว่า ผ่านไปตั้งครึ่งชั่วโมงแล้วยังส่งบอลไม่ถึงฝั่งตรงข้ามเลย!!!!
ถึงแม้ในปัจจุบันนั้น เรื่องนี้ไม่ได้รับความนิยมเหมือนแต่ก่อน อันเนื่องมาจากพล็อตเรื่องที่ยังไม่พัฒนาไปพร้อมๆกับการเติบโตของตัวละคร แถมมุขที่ใช้ก็ซ้ำซาก แต่ก็เพราะมุขที่ซ้ำซากเนี่ยแหละที่ทำให้ผู้อ่านไม่มีวันลืมการ์ตูนฟุตบอล เรื่องนี้ ถึงแม้ว่า เนื้อเรื่องของซึบาสะอาจดูเพ้อฝันหรือเพ้อเจ้อสำหรับใครบางคน แต่เรื่องนี้นี่แหละ ก็ทำให้เป็นการสร้างแรงบันดาลใจแก่เยาวชนญี่ปุ่น ทำให้พวกเขาฝึกฝนอย่างหนัก เพื่อจะเป็นนักฟุตบอลที่เก่ง และ ในที่สุด ทีมชาติญี่ปุ่นก็กลายเป็นทีมชั้นนำระดับโลก มีนักเตะฝีเท้าดีไปค้าแข้งในลีกดังๆในยุโรป ชนิดที่บางชาติที่เคยข่มว่าเมื่อก่อนเคยชนะญี่ปุ่นขาดลอยนั้นแทบอายม้วนเลย (แถมจนบัดนี้รอบสุดท้ายก็ยังไม่เคยไปกับเขาเลย.......)



ยิงประตูสู่ฝัน
ยิง ประตูสู่ฝัน (ญี่ปุ่น: 俺たちのフィールド Oretachi no Field ?) (อังกฤษ: Our Field of Dreams) เป็นการ์ตูนญี่ปุ่น แนวโชเน็น เนื้อเรื่องเกี่ยวกับกีฬาฟุตบอล โดยเล่าถึงชีวิตของเด็กผู้ชายที่ชื่อ ทาคาสุงิ คาซึยะ ผู้หลงไหลเกมลูกหนังเป็นชีวิตจิตใจ ผู้อ่านจะได้ติดตามชีวิตในโลกลูกหนังของตัวเอกที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ และก้าวไปสู่สังเวียนที่ยิ่งใหญ่ขึ้นพร้อมๆกัน โดยอาจแบ่งการดำเนินเรื่องเป็นภาคต่างๆ ตามการเติบโตของตัวเอกได้กลายๆ ดังนี้
เนื้อ เรื่อง
ภาค เริ่มต้น : ฟุตบอลนักเรียน

ทาคาสุงิ คาซึยะ เป็นเด็กผู้ชายที่รักการเล่นฟุตบอลเป็นอย่างมาก เขาเป็นลูกของทาคาสุงิ คังอิจิ นักฟุตบอลกึ่งอาชีพ ความใฝ่ฝันของคาซึยะตั้งแต่เด็กๆ คือการได้เติบโตเป็นนักฟุตบอลที่ดี และร่วมทีมกับพ่อของเขาเพื่อคว้าแชมป์จากสนามแห่งชาติมาให้กับทีมยามากิ (ต้นสังกัดของคังอิจิ) ในช่วงที่คาซึยะเล่นฟุตบอลให้กับทีมซากุระมะจิคิกเกอร์ร่วมกับเพื่อนๆชั้น ประถม 5 ของเขา ซึ่งหนึ่งในนั้นคือสาวน้อยโมริงุจิ ไอโกะ คาซึยะก็ได้พบกับเด็กนักเรียนที่ย้ายมาใหม่ และความเก่งกาจของเขาก็ทำให้กลายเป็นที่สนใจในทันที ชื่อของเด็กคนนั้นคือคิ บะ ทาคุมะ แม้ทั้ง 2 จะไม่ชอบขี้หน้ากัน แต่ก็ทำผลงานด้วยกันในสนามเป็นอย่างดี แต่แล้วจู่ๆ คาซึยะกลับต้องพบข่าวร้ายที่สุดในชีวิตของเขา เมื่อพ่อ คนที่เขารักมากที่สุดในชีวิตประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต เพราะพยายามช่วยเด็กคนหนึ่งไว้ไม่ให้โดนรถชน ความเศร้าโศกเสียใจทำให้เขาหันหลังให้กับฟุตบอลนับแต่นั้น เมื่อเข้าสู่การเรียนในระดับมัธยม ไอโกะไม่สามารถร่วมทีมฟุตบอลชายได้อีกต่อไป ในขณะที่คิบะยังคงเล่นฟุตบอลด้วยแนวทางของตนเอง ในช่วงนั้นก็ปรากฏมีเด็กหนุ่มจากต่างประเทศ ผู้รักษาประตูแห่งทีมเยาวชนสโมสรเอซี มิลาน สุเอซึงุ โคอิจิโร่ เขาเป็นเด็กญี่ปุ่นที่ไปอยู่อิตาลีตั้งแต่ยังเล็กและฝึกฝนฟุตบอลที่นั่น การกลับมาญี่ปุ่นของเขาเพื่อมาพบคาซึยะ เพราะเขาคือเด็กคนที่คังอิจิช่วยเอาไว้ในอุบัติเหตุเมื่อหลายปีก่อน เมื่อคาซึยะและสึเอซึงุเผชิญหน้ากันจึงได้เปิดใจคุยกัน และในที่สุดสึเอซึงุก็สามารถจุดไฟในใจของคาซึยะขึ้นมาและดึงเขากลับสู่โลก แห่งลูกหนังอีกครั้ง คาซึยะร่วมทีมกับคิบะ พาทีมผ่านอุปสรรคทีมแล้วทีมเล่า จนในที่สุด พวกเขาก็ได้แชมป์มาครอง
ภาค เติบโต : ฟุตบอลอาชีพ

ภายหลังจากทาคาสุงิ เรียนจบชั้นมัธยมปลายแล้ว เขาตัดสินใจที่จะหยุดเรียนเพื่อหันมาเล่นฟุตบอลอย่างจริงจัง และด้วยความช่วยเหลือของนักข่าวกีฬาสาวได้ช่วยพาเขาพร้อมด้วยอิโซโนะ ทาคุโร่ นักฟุตบอลความเร็วสูงอีกคนไปเก็บเกี่ยวหาประสบการณ์ที่อาร์เจนตินา ภายใต้การทำทีมของโค้ชชาวญี่ปุ่น ทาคาสุงิและทาคุโร่ได้โอกาสลงสนามและขับเคี่ยวกับนักฟุตบอลลาตินอเมริกัน พวกเขารู้ซึ้งถึงความต่างระหว่างฝีเท้า แต่ก็ไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรค และที่อาร์เจนตินานี่เอง ทาคาสุงิได้พบกับดาเมียน นักฟุตบอลอาร์เจนตินาที่ฝีเท้าร้ายกาจยิ่งกว่าใครที่พวกเขาได้เจอ และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ของทั้งสองที่เป็นคู่แข่งกัน เมื่อกลับมายังประเทศญี่ปุ่น ทาคาสุงิและคันคุโร่ได้เข้าร่วมทีมฟุตบอลยามากิ ที่นั่นมีคิบะเพื่อนเก่าของทาคาสุงิรออยู่ พวกเขาทั้งสามได้เข้าไปอยู่ในทีมช่วงที่ตกต่ำถึงขีดสุด ถึงขั้นที่อาจต้องยุบทีม ทุกครั้งที่ลงสนาม ก็พบแต่คู่แข่งที่ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ แต่ด้วยการร่วมแร่งร่วมใจกันของทาคาสุงิและเหล่าผองเพื่อน ในที่สุดพวกเขาก็สามารถคว้าแชมป์การแข่งขันและรักษาสถานภาพของทีมฟุตบอล อาชีพได้สำเร็จ และจากผลงานอันโดดเด่นในการเล่นกับทีมยามากินี่เอง ทำให้ทาคาสุงิถูกเรียกตัวเข้ารับการคัดเลือกเป็นนักฟุตบอลทีมชาติพร้อมกับ เพื่อนๆ ของเขาอีกหลายคน
ภาค ส่งท้าย : ฟุตบอลทีมชาติ

เมื่อคาซึยะได้เข้าเก็บตัวรับการคัดเลือกทีมชาติ เขาก็ได้พบกับอิบุ สุดยอดกองกลางแห่งทีมชาติญี่ปุ่นในขณะนั้น การพบกันในตอนแรกทำให้คาสึยะรู้สึกถึงความพิเศษของอิบุได้ในทันทีจากความ สามารถและบุคลิกที่โดดเด่นของดาวยิงผู้นี้ การเก็บตัวคราวนั้นได้เรียกตัวนักเตะผสมกันระหว่างผู้เล่นหน้าใหม่ที่ไม่เคย ติดทีมชาติ และนักเตะมากประสบการณ์ที่เพิ่งอกหักมาจากฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก บรรยากาศตึงเครียดยิ่งระอุขึ้นไปอีก เมื่อเกิดการทะเลาะแย่งตำแหน่งการเล่นกันระหว่างนักเตะทั้ง 2 กลุ่ม ส่งผลให้เกิดการฟอร์มทีมของบรรดาเด็กใหม่และใช้ชื่อว่ารีเสิร์ฟด็อก แยกต่างหากจากกลุ่มนักเตะเดิม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น